ทีเด็ดเกล็ดพิฆาตไก่ป่าก๋อย-ไก่ทุกเหล่า


พิเศษ การดูแข้งไก่ชน
แข้งไก่ชนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนี้คืออาวุธหลัก เรามาดูลักษณะแข้งไก่ชนแบบต่างๆครับ
1.แข้งกลมเล็กดั่งเส้นหวาย
เป็นแข้งตีเจ็บปวดมาก มักฝากแผลครูไว้กับคู่ต่อสู้เสมอทั้งๆดูแล้วไม่ค่อนน่ากลัว แข้งกลมเล็กมาจากข้อเข่า แล้วค่อยๆเรียวโตจรดโคนนิ้วประกอบด้วยเกล็ดแข้งอีกด้วย
2.แข้งกลมใหญ่
เป็นไก่ลำหักลำโค่นรุนแรง ถ้าตีโดนจังๆทำให้คู่ต่อสู้บอบช้ำ มักตีลำตัว แต่ตีช้า ไม่ค่อยนิยมนัก
3.แข้งเหลี่ยม
เป็นเหลี่ยมมองเห็นชัดเจน มีทั้งเหลี่ยมใหญ่ เหลี่ยมเล็ก ถ้าเป็นไก่แข้งเหลี่ยมเล็กนี่เรียกว่า “แข้งคัด” ดี งาม ถ้าเหลี่ยมใหญ่ไม่ดีช้า อืดอาด”ต้ม”
4.แข้งยาว แม่ไม่ผิดปกติ แต่ดูแล้วยาวโย่ง มักตีไม่แม้น “การที่จะดูไก่ชนตัวไหนตีแม่นไม่แม่น ให้สังเกตเวลาที่ไก่ยืนชะเง้อ ยืดตัวเต็มที่ ถ้าแข้งยืดขนานไปกับข้อเข่าและปั้นขา ทายว่าไก่ตัวนั้นตีแม่น ถ้ายืดตัวออกแล้วข้อขายังงออยู่ ไก่ตัวนั้นตีไม่แม่น
5.แข้งนิ่ม
เป็นแข้งพิเศษ ตามปรกติไก่ทุกตัวต้องมีแข้งและเกล็ดแข็ง แข้งนิ่มเวลาบีบจะนิ่มเหมือนกล้ามเนื้อ ถ้านำไปตีจะตีเจ็บปวดแสนสาหัส
6.แข้งขน
7..แข้งไม้ดัด หรือแข้งคัด จะมีลักษณะคล้ายกับไม้ดัด ไม้คมแฝก ด้านข้างแข้งจะออกเป็นเหลี่ยมเป็นมุม แข้งจะโตเสมอต้นเสมอปลายทรงเหลี่ยม ผิวแข้งจะขรุขระไม่ราบเรียบ เกล็ดซ้อนเผยอขึ้น เป็นไก่แข้งสวยรองจาก แข้งลำหวาย เป็นแข้งที่ตีไก่เจ็บเช่นกัน
ไก่อูพันธุ์แท้ไม่มีขนที่แข้ง ถ้ามีแสดงว่า ไก่ตัวนั้นมีเลือดพันธุ์ตะเภาปนอยู่ ไม่เหมาะมาทำไก่ชนเว้นเสียแต่มีส่วนอื่นดีเช่นกัน


ทีเด็ดเกล็ดพิฆาต(ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)

หน้าแข้ง คือ ส่วนของแข้งด้านหน้า ตั้งแต่ข้อขาลงมาถึงปลายนิ้วทั้งสาม คือ นิ้วกลาง นาง และชี้ ของไก่ หน้าแข้งจะประกอบด้วยเกล็ดต่างๆ เรียงเป็นแถว อาจจะเป็นหนึ่งแถว สองแถว สามแถว อาจจะตรงกันตลอดหรือไม่ก็ได้ ถ้าเรียงตรงกันตลอดเป็นระเบียบถือว่าดี แบ่งออกได้ ดังนี้ คือ
 เกล็ดด้านหน้าเรียงกันเป็นระเบียบหนึ่งแถว ถ้าเรียงกันตรงลงมาถึงข้อเท้า เรียกว่ากำไลปัดตลอด ถ้าเรียงกันเฉียงลงมาถึงข้อเท้าเรียกพันลำ ถือว่าดี
ประเภทเกล็ดกำไล คือ เกล็ดคาดเต็มแข้งไก่ด้านหน้าจากด้านซ้าย ไปข้างขวา เป็นเกล็ดเดียวไม่มีรอยแตกหรือรอยขาด เกล็ดกำไลที่สำคัญและมีอิทธิฤทธิ์พิษสง มีอยู่ ๗ ชนิด คือ



1.กำไลปัดตลอด คือเกล็ดกำไลคาดตรงตลอดจากข้อขาถึงข้อเท้าแบบเกล็ดนกเอี้ยงเป็นเกล็ดกำไลที่สวยงามมาก มีอิทธิฤทธิ์พิษสงตีเจ็บปวดลึกแบบโดนฟาดด้วยไม้กระบอง เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ง่าย ไก่กำไลปัดตลอดมักจะตีลำตัวได้เจ็บ ถ้าขึ้นหัวได้จะตีให้แพ้เลย



2.กำไลพันลำ คือ เกล็ดกำไลคาดเฉียงตลอดจากข้อขาถึงข้อเท้า แบบลายกระบองยักษ์ เป็นเกล็ดกำไลที่สวยงาม พอๆกับกำไลปัดตลอด มีอิทธิฤทธิ์พิษสงแบบไม้กระบองยักษ์ ตีเจ็บปวดลึก เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ง่าย เช่นเดียวกับเกล็ดกำไลปัดตลอด
3.กำไลหนุมานนั่งแท่น คือ เกล็ดกำไลคาดตรงหรือเฉียงจากข้อขาบนปกลงมา ๓ เกล็ดติดๆกัน ถ้ามี สองข้างยิ่งดี เรียกว่าหนุมานนั่งแท่น หรือหนุมานครองเมือง เป็นเกล็ดกำไลที่สวยงามอีกเกล็ดหนึ่ง มีอิทธิฤทธิ์พิษสงแพ้ยาก เชื่อว่าแม้ถูกตีจนหักจนชักก็สามารถฟื้นคืนกลับมาเอาชนะได้ เป็นไก่อึดทนแข็งแรงเก็บอาการได้ดี
4.เกล็ดเหน็บเกล็ดแตก มีเกล็ดเล็กๆขึ้นเหน็บหรือแซมที่หน้าแข้งหรือนิ้ว หรือมีรอยแตกรอยผ่าที่เกล็ดหน้าแข้ง หรือนิ้ว ถือว่าดี เช่น
5.เกล็ดเหน็บหรือแตกหน้าเดือย คือเกล็ดเล็กที่ขึ้นเหน็บซ้อนใต้เกล็ดหน้าบริเวณหน้าเดือย ถ้ามีที่ขาทั้งสองข้างถือว่าแทงยับ ไก่เหน็บหน้า เดือยถ้าที่มีที่ขาข้างเดียว เรียกว่าเกล็ดขัด และถ้ายิ่งหงอนไม่เลยลูกตา เชื่อว่าไม่คุ้มลูกตาข้างเหน็บ ถ้าปล้ำชน ตาข้างที่เกล็ดขัดมักบอด
6.เกล็ดเหน็บหรือแตกนิ้วใน(นิ้วชี้) เรียกว่า เหน็บใน จะเป็นไก่ตีเจ็บตีหักตีชัก ถ้าเหน็บสองข้างๆละหลายเกล็ดตรงกัน ถือว่าดีมาก ตีหนักตีหักตีชักให้คู่ต่อสู้แพ้เลย ถ้าเหน็บสองข้างไม่ตรงกัน จะตีหักตีชักต้องตีหลายครั้งคู่ต่อสู้จึงจะแพ้ ถ้าเหน็บข้างเดียวจะตีไก่เจ็บมีหักมีชัก แต่ไม่ถึงกับวิ่งหนีแบบชนิดแรก แต่ถ้าเกล็ดแตกไม่ถึงกับเหน็บหรือซ้อน ถือว่าเป็นไก่แข้งคม ตีแตกเกิดบาดแผล มีหักเล็กน้อย
7.เกล็ดเหน็บหรือแตกบริเวณข้อนิ้วกลาง เรียกขุนแผนสะกดทับ จะเป็นไก่ตีไก่หยุดหมด เก่งสะกดคู่ต่อสู้ได้ 
8.เกล็ดแตกบริเวณนิ้วทุกนิ้วทั้ง ๘ นิ้ว กี่เกล็ดก็ได้ เรียก จักรนารายณ์ เป็นไก่ตีหักตีชัก ทำลายคู่ต่อสู้ได้ง่ายๆ  
9.เกล็ดแตกปลายนิ้วทุกนิ้วทั้ง ๘ นิ้ว เรียก ผลาญศัตรู จะเป็นไก่ตีเจ็บมาก มีหักมีชักถึงแพ้พิการหรือตาย จะแก้ปราบไก่ได้ทุกตัว จะไม่ยอมแพ้ไก่ใด ถ้าแตกไม่ครบ ๘ นิ้ว จะเป็นไก่ตีเจ็บตีหัก แต่ไม่ถึงตาย
10.เกล็ดก้อยแตกทุกเกล็ดทั้งสองก้อย เรียก ไชบาดาล จะเป็นไก่ตีเจ็บปวดมาก มีหักมีชัก อาจพิการหรือตายได้ เช่น เกล็ดผลาญศัตรู ถ้าแตกปลายนิ้วเข้ามา หรือจากเกล็ดติดเล็บมาข้างละ ๓ เกล็ดถือว่าดีแล้ว อย่างน้อยต้องให้เกล็ดปลายสุดติดเล็บแตกถึงจะดี
11.เกล็ดเหน็บ-เกล็ดแตก ทั้งสองอย่างนี้ บางตำราว่าเหมือนกัน แต่ท่าน อาจารย์พน นิลผึ้ง ได้ให้ทัศนะว่าน่าจะแตกต่างกัน เกล็ดเหน็บเป็น เกล็ดเล็กๆขึ้นซ้อนอยู่ใต้เกล็ดใหญ่อื่นๆในแข้งไก่ ส่วนเกล็ดแตก คือ เกล็ดที่มีรอยแยกแตกออกเป็นส่วนๆ แบ่งเกล็ดนั้นออกเป็นสองหรือสามส่วน
12.ท้องแข้ง คือ ส่วนของแข้งที่อยู่ด้านหลังตรงข้ามกับหน้าแข้ง ตั้งแต่ข้อขาตรงน่องสิงห์ลงมาถึงปลายนิ้วก้อย ท้องแข้งที่ดีจะต้องอิ่ม นูน เต็มไม่ฟีบแบนหรือโบ๋
13.เกล็ดบัวแข้งหรือเกล็ดพลายน้ำ จะขึ้นจากข้อขาบนตรงน่องสิงห์เรียงลงมาตามสันหลังแข้ง ถ้าเรียงตรงแบบปูกระเบื้อง ถือว่าธรรมดา ถ้าเรียงซ้อนกันลงมาแบบมุงหลังคา ถือว่าดี ถ้าเรียงหงายขึ้นถือว่าธรรมดา ถ้าเรียงคว่ำถือว่าดี ถ้าเรียงลงมาไม่ถึงเดือยหรือแค่ครึ่งแข้งกว่าถือว่าไม่ดี เรียกบัวขาด หรือถอดหัวหนี จะถอดใจง่าย เวลาชน ไม่อดทน ถ้าเกล็ดบัวเรียงลงมาเลยเดือยมากๆ ถึงถุงเงินถือว่าดี อดทน แพ้ยาก ถ้าเกล็ดบัวหลังแตก ถือว่าดี แข้งคม ตีไก่ได้เลือด มีหักมีชัก
14.เกล็ดเม็ดข้าวสาร เม็ดข้าวโพด คือ เกล็ดด้านหลังแข้งตรงท้องแข้งที่ขึ้นเรียงต่อจากเดือยขึ้นไปหาข้อขาบน ถ้า
15.เกล็ดเต่งยาวเรียกเม็ดข้าวสาร ถ้าเกล็ดเต่งกลมเรียกว่าเม็ดข้าวโพดถือว่าดี ถ้าเกล็ดเม็ดข้าวสารหรือเม็ดข้าวโพดลีบแบน เรียกอันบอด ถือว่าไม่ดี
16.เกล็ดเม็ดข้าวสาร เม็ดข้าวโพด ขึ้นต่อจากเดือยเรียงตรงขึ้นไป ถึงข้อขาบนได้ ๑๒ เกล็ด ถือว่าสุดยอด เรียกข้าวสารพระอินทร์ จะตีไก่เจ็บปวดมาก และไม่แพ้ใคร ถ้าเลี้ยงดีเปรียบดี
18.เกล็ดเม็ดข้าวสาร เม็ดข้าวโพด เรียงไม่เป็นระเบียบ ขนาดไม่สม่ำเสมอ ถือว่าสับสน เล่นต้องระวังอย่าเผลอ
ให้ดูตรงเม็ดที่ขัดออก นอกแถว ถ้าเต่งจะดี ถ้าบอดจะไม่ดี จะเล่นหรือจะออกตัวให้พิจารณาดูตรงนี้ เพราะเกล็ดเม็ดข้าวสาร เม็ดข้าวโพดจะเป็นตัวบ่งบอกอันไก่ว่าอันไหนดี อันไหนไม่ดี ชนได้ประมาณกี่อัน เช่น ถ้าเกล็ดเม็ด ๑-๒-๓ ใหญ่ แต่ตรงเม็ดที่ ๔ เล็กบอดและขัดออกมานอกแถว ไก่จะเป็นรองในอันนั้น หรือ แพ้อันนั้น ถ้าเกล็ดเม็ด ๑-๒-๓ เล็กเฉ เม็ด ๔-๕-๖ ใหญ่ ตรงเม็ดที่ ๖ ใหญ่มาก ไก่จะเป็นต่อและอาจชนะในอัน ๖ ให้เริ่มเล่นได้ในอันที่ ๔ ไก่ที่มี เม็ดข้าวสารมากๆดีกว่า มีเกล็ดเม็ดข้าวสารเม็ดข้าวโพดน้อย
19.เกล็ดเสริมเม็ดข้าวสาร คือ เกล็ดที่ขึ้นคู่ด้านข้างเกล็ดเม็ดข้าวสาร ขาทั้งสองข้าง ถ้าเกล็ดเสริมเม็ดข้าวสารมีข้างละสองแถวเรียงตรงกัน ขึ้นไป เม็ดเกล็ดเต่งตึง แบบเม็ดข้าวสาร ถือว่าดี ตีไก่เจ็บมาก ค่อนข้างหายาก
20. เกล็ดสังวาลย์หรือสร้อยสังวาลย์ เป็นเกล็ดด้านข้างอยู่ด้านนอกของแข้งไก่ เรียงตั้งแต่บริเวณเดือนขึ้นไปถึงข้อขาบนทั้งสองข้างขา ถ้า เกล็ดสังวาลย์มีข้างละสามแถวตลอด จะเป็นไก่รักศักดิ์ศรี รักเดิมพันจะไม่ยอมแพ้ไก่ใด ถ้าสองแถวพอใช้ได้ ถ้าแถวเดียวเม็ดเต่งจะเป็นไก่ตีเจ็บปวดดี เกล็ดสังวาลย์จะบ่งบอกความสมบูรณ์ของไก่ ถ้าเกล็ดสีสด ไก่สมบูรณ์ ถ้าเกล็ดสีซีดไก่ไม่สมบูรณ์
21.เกล็ดสังวาลย์เพชร คือ เกล็ดแข้งขึ้นเรียงคู่กับเกล็ดสร้อยสังวาลย์ด้านติดกับบัวหลังลักษณะเกล็ดเหมือนๆเกล็ดบัวหลัง เรียงจากบริเวณเดือย ขึ้นไปถึงข้อขา มีอิทธิฤทธิ์พิษสงร้ายแรง ตีไก่ล้มได้
22.เกล็ดเต๋า เป็นเกล็ดกลุ่มเล็กๆกลุ่มละ ๔,๕,๖ คล้ายจุดบนลูกเต๋า จะอยู่ด้านข้างแข้งใต้เกล็ดสร้อยสังวาลย์และเกล็ดบัวหลังลงมาแถวใต้เดือยถึง ก้อย มีลักษณะคล้ายเกล็ดดาวล้อมเดือน เป็นเกล็ดเสริมความดีของไก่ เป็นไก่พลิกผันไปในทางดีได้ ถ้าเป็นรองก็จะเป็นต่อได้ เรียกว่ารองเล่นได้
23.เกล็ดพวงมาลัย คือ เกล็ดที่ขึ้นล้อมรอบเดือยเหมือนพวงมาลัยล้อมผมจุกเด็กเป็นไก่ใช้ตอแทงจัด
24.เกล็ดเชลยหรือเกล็ดเดิมพันหรือเกล็ดประทัดช้าง เป็นเกล็ดขึ้นต่อจากโคนนิ้วก้อยขึ้นอ้อมเดือยด้านในเรียงขึ้นไปถึงข้อขาบน ถือว่าเป็นไก่รัก เดิมพัน มีเชลยหรือตัวแพ้มาเป็นคู่ชนของมัน ยิ่งตีเดิมพันยิ่งแพงยิ่งดี ได้คู่หมู จะชนะแบบไม่เจ็บตัว เวลาเปรียบให้สังเกตถ้ามันรบเร้าจะจิกตีไก่ ตัวใดหรือไก่ตัวใดรบเร้ามาเปรียบบ่อยๆ ให้เอาตัวนั้นจะชนะได้ง่ายๆ
25.เกล็ดไชบาดาล คือ เกล็ดก้อยด้านหลังแตกทุกเกล็ดทั้งสองข้าง เป็นไก่ตีหักตีชัก ตีไก่แพ้ได้ง่าย



ไม่มีความคิดเห็น: